FAQs

งานเงิน 925 และ Sterling Silver นั้นเป็นสิ่งเดียวกัน หมายถึงเครื่องประดับที่ทำจากโลหะเงินที่มีความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 92.5% ผสมกับโลหะอื่นๆ อีก 7.5% เพื่อให้เครื่องประดับมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความสวยงาม

- 925 เป็นตัวเลขที่บอกความบริสุทธิ์ของเงินที่มีอยู่ 92.5%

- Sterling Silver เป็นคำที่ใช้เรียกเครื่องประดับเงินที่มีความบริสุทธิ์ 92.5% ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ยอมรับกันทั่วไป

ทอง 9K (9 Karat) หมายถึงทองคำที่มีส่วนผสมของทองคำบริสุทธิ์อยู่ 37.5% ซึ่งหมายความว่าในทองคำหนัก 100 กรัม จะมีทองคำบริสุทธิ์อยู่ 37.5 กรัม ส่วนที่เหลืออีก 62.5 กรัม จะเป็นโลหะผสมอื่นๆ เช่น ทองแดง และ/หรือ เงิน เพื่อเพิ่มสี,ความแข็งแรงและความทนทานให้กับทองคำ

งานเงินแท้ (โดยเฉพาะ 925 Sterling Silver) เมื่อใส่ไปนานวันมักจะเกิดการเปลี่ยนสีหรือหมองคล้ำค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากปฏิกิริยาของเงินกับอากาศ ความชื้น และสารเคมีต่างๆ เช่น เหงื่อ น้ำหอม หรือเครื่องสำอาง

ปัจจัยส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดการแพ้คืองานเงิน 925 มีส่วนผสมของนิกเกิล ซึ่งอาการจะแสดงออกในรูปแบบของผื่นคัน บวมแดง หรือผิวหนังอักเสบ ซึ่งเครื่องประดับของ Be'Shine ไม่มีส่วนผสมของโลหะ 'นิกเกิล'

แต่หากคุณลูกค้ามีอาการแพ้เครื่องประดับเงิน ควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่ และปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพราะอาจจะเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น การแพ้โลหะบางชนิด, ผิวแพ้ง่าย, สัมผัสกับเหงื่อ เป็นต้น

ชุบไมครอน เป็นการชุบด้วยไฟฟ้า โดยใช้ทองคำแท้มาเคลือบผิวชิ้นงานให้มีความหนาเป็นไมครอน (1 ไมครอน เท่ากับ 0.001 มิลลิเมตร) ยิ่งจำนวนไมครอนสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความหนาและทนทานต่อการเสียดสีและกัดกร่อนมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งงานส่วนใหญ่ของ Be'Shine จะเป็นการชุบไมครอน

ส่วนชุบปกติ เป็นการชุบด้วยไฟฟ้าเช่นกัน แต่จะใช้โลหะผสมที่มีส่วนผสมของทองคำน้อยกว่า หรืออาจใช้สารเคมีในการเคลือบผิว ซึ่งมีความทนทานน้อยกว่าชุบไมครอน

งานเงินชุบทองคำขาว: เป็นการนำเครื่องประดับเงินไปชุบด้วยโลหะผสมที่เรียกว่า "ทองคำขาว" ซึ่งเป็นทองคำผสมกับโลหะอื่นๆ เช่น นิกเกิล หรือ พัลลาเดียม เพื่อให้ได้สีขาว

งานเงินชุบโรเดียม: เป็นการนำเครื่องประดับเงินไปชุบด้วยโลหะโรเดียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีสีขาวเงิน และมีความแข็งแกร่งสูง ซึ่งสินค้า Be'Shine จะเป็นงานชุบโรเดียม

การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและสไตล์การแต่งตัวของคุณค่ะ หากต้องการความทันสมัยและความเงางาม โรเดียมก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการความคลาสสิกและความอบอุ่น ทองคำ 14K ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

ส่วนใหญ่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างตัวเรือนกับสิ่งแวดล้อม หรือการใช้งานประจำวัน ได้แก่:

1. ปฏิกิริยากับอากาศ: โลหะส่วนใหญ่เมื่อสัมผัสกับอากาศจะเกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์ ทำให้เกิดชั้นออกไซด์เคลือบบนผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เครื่องประดับเปลี่ยนสี

2. เหงื่อและความชื้น: เหงื่อมีกรดอะมิโนและเกลือแร่ ซึ่งสามารถทำปฏิกิริยากับโลหะ ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีและหมองคล้ำ

3. สารเคมี: สารเคมีต่างๆ เช่น น้ำหอม โลชั่น ครีมบำรุงผิว หรือแม้แต่คลอรีนในสระว่ายน้ำ สามารถทำปฏิกิริยากับโลหะ ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้

4. การเสียดสี: การเสียดสีกับสิ่งของอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชั้นเคลือบบนผิวเครื่องประดับสึกหรอ และทำให้สีซีดจางลง

5. คุณภาพของโลหะ: โลหะที่มีคุณภาพต่ำ หรือโลหะผสมที่มีส่วนผสมของโลหะที่ไม่เสถียร ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีได้ง่ายกว่า

พลอยธรรมชาติ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติใต้พื้นดิน ผ่านกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ใช้เวลานานหลายล้านปี มักมีตำหนิหรือรอยแตกภายใน ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติ มักจะมีราคาสูงกว่า และมีความหลากหลายในเรื่องของสี ขนาด และความใส เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและความหายาก ซึ่งแบรนด์ Be'Shine ใช้พลอยธรรมชาติที่ผ่านการเจียระไนโดยช่างฝีมือไทย

ในขณะที่พลอยสังเคราะห์ ถูกสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการโดยการจำลองสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบกว่า เนื่องจากถูกควบคุมกระบวนการผลิต มีราคาที่ถูกกว่าพลอยธรรมชาติ เนื่องจากสามารถผลิตได้ในปริมาณมาก สามารถควบคุมสีและขนาดได้ ทำให้ได้พลอยที่มีคุณสมบัติสม่ำเสมอ เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการเครื่องประดับที่มีความสวยงามในราคาที่จับต้องได้

โดยทั่วไปแล้ว จะมีหลักการพิจารณา 4 ประการหลักที่เรียกว่า 4Cs ได้แก่

Cut (การเจียระไน): การเจียระไนมีผลต่อความสวยงามและประกายของพลอย ช่างเจียระไนที่มากประสบการณ์ของ Be'Shine มาช่วยให้พลอยเปล่งประกายได้อย่างเต็มที่

Color (สี): สีของพลอยแต่ละชนิดจะมีสีที่เป็นที่ต้องการและมีค่าแตกต่างกันไป

Clarity (ความสะอาด): ความสะอาดของพลอย Be'Shine คัดสรรก้อนพลอยธรรมชาติที่มีสีสวยและใสสะอาด

Carat (ขนาด): ขนาดของพลอยก็มีผลต่อราคา โดยทั่วไป พลอยที่มีขนาดใหญ่จะมีราคาสูงกว่า ซึ่งพลอยของ Be'Shine มีขนาดที่มากกว่า 7 มิลลิเมตรขึ้นไป